ได้จาก แนวคิดชีวิต - ปลาทูไหม้สอนใจ
แม่ของผมเป็นคนทำอาหารที่บ้านประจำทุกวัน คืนหนึ่งหลังจากที่แม่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน แม่กลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยล้าและทำอาหารเย็นให้เราตามปกติ ที่โต๊ะอาหารแม่วางจานที่มีปลาทูไหม้เกรียมบนโต๊ะต่อหน้าพ่อและทุกๆ คนผมรอว่าแต่ละคนจะว่าอย่างไร แต่พ่อไม่พูดอะไรและตั้งหน้าตั้งตากินปลาทูไหม้ตัวนั้น และหันมาถามผมว่าที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง
คืนนั้นหลังอาหารเย็น ผมจำได้ว่าได้ยินแม่ขอโทษพ่อที่ทอดปลาทูไหม้และผมไม่เคยลืมที่พ่อพูดกับแม่เลย “โอย … ผมชอบปลาทูทอดเกรียมๆ อร่อยมากนะแม่”
คืนต่อมา ผมเก็บคำถามในใจก่อนนอน และถามพ่อว่าพ่อชอบปลาทูทอดเกรียมๆ จริงๆ เหรอ พ่อลูบหัวผมและตอบว่า “แม่ของลูกทำงานหนักมาทั้งวัน ปลาทูไหม้ 1 ตัวไม่เคยทำร้ายใคร แต่คำพูดที่ต่อว่ากันนั้นต่างหากที่จะทำร้ายกัน”
ชีวิตคนเราเต็มไปด้วยความไม่สมบูรณ์แบบ และแต่ละคนก็ไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์แบบ ตัวเราเองก็ไม่ได้มีอะไรดีกว่าใครๆ
แต่สิ่งที่พ่อเรียนรู้ในช่วงชีวิตคือ การเรียนรู้ที่จะยอมรับความผิดของคนอื่นและของตัวเอง การเลือกที่จะยินดีกับความคิดต่างกันของแต่ละบุคคลเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาชีวิตครอบครัวที่มีความสุขและยืนยาว
ชีวิตเราสั้นเกินกว่าที่จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเสียใจที่ว่าเราทำผิดกับคนที่เรารักและรักเรา ให้ดูแลและทะนุถนอมคนที่รักเรา และพยายามเข้าใจและให้อภัยจะดีกว่า
ถ้าเรารู้เราจะทำไหม?
เราจะบีบแตรใส่คนที่ยืนยึกยักริมถนนแยกที่ผ่านมาไหม ถ้าเรารู้ว่าเค้าใส่ขาเทียม
เราจะเบียดชนคนข้างหน้าที่เดินช้ามากไหม ถ้าเรารู้ว่าเค้าเพิ่งตกงาน
เราจะขำคนที่แต่งตัวเชยไหม ถ้าเรารู้ว่าเค้ามีชุดเก่งแค่ชุดเดียว
เราจะรำคาญสาวโรงงานที่มาเดินพารากอนไหม ถ้าเรารู้ว่านั่นคือการฉลองวันเกิดของเธอ
เราจะหมั่นไส้ลุงที่หัวเราะเสียงดังลั่นคนนั้นไหม ถ้ารู้ว่าแกเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
เรารู้แจ่มชัดเสมอว่าชีวิตเรากำลังเจออะไร แต่เราไม่มีวันรู้ว่า “คนที่เราเจอ กำลังเจอกับอะไร”
โลกกว้างกว่าเงาของเรา และโลกก็ไม่ได้หมุนรอบตัวเรา เราจึงควรมองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปบ้าง ให้โอกาสและให้อภัย มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน จะได้รักและอยู่ด้วยกันอย่างยั่งยืนยาวนาน