บทความ “รูปถ่ายสินค้าประเภท ต่างๆ มีอะไรบ้าง?” โดย JRS Photography รับถ่ายรูปสินค้า
การถ่ายรูปสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ซื้อออนไลน์ต้องการเห็นสิ่งที่กำลังวางแผนจะซื้อ และ อยากเห็นคุณภาพของรูปถ่ายในขณะเดียวกัน การถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือแบบเบลอๆ คงไม่เป็นประโยชน์ต่อร้านค้าออนไลน์ของคุณแน่ เพราะรูปถ่ายสินค้ามีอิทธิพลต่อการซื้อของลูกค้าพอๆ กับ รีวิว คำอธิบายรายละเอียดสินค้า และ ราคาเลยทีเดียว ซึ่งหมายความว่าสไตล์การถ่ายรูปสินค้าเพื่อการขาย อาทิ การรูปถ่ายสินค้าด้วยพื้นหลังสีขาว จึงมีความสำคัญมาก สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ คุณควรรู้วิธีการถ่ายรูปถ่ายสินค้าประเภท ต่างๆ ซึ่งล้วนแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ตลอดจน การนำเสนอรูปภาพเหล่านี้บนแพลตฟอร์ม และ ตลาดออนไลน์ต่างๆ ในบทความนี้ จะมีการพูดถึงประเภทของรูปถ่ายสินค้าที่คุณควรทราบ ได้แก่ รูปถ่ายสินค้าแบบในสตูดิโอ, แบบพื้นหลังสีขาว, แบบจัดกลุ่ม, แบบไลฟ์สไตล์, และ รูปถ่ายสินค้าระยะใกล้ ครับ
รูปถ่ายสินค้าประเภท ถ่ายในสตูดิโอ
สินค้าบางชนิดต้องถูกถ่ายรูปแบบจำเพาะเจาะจง ยกตัวอย่างเช่น ไวน์ การถ่ายรูปไวน์หนึ่งขวด ใช้แสงที่แตกต่างจากการถ่ายรูปรองเท้า วิธีการที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปภาพสินค้าประเภทนี้ คือ การถ่ายในสตูดิโอ สำหรับการการถ่ายในสตูดิโอ จุดเด่น คือ การควบคุมแสง การควบคุมคอนทราสต์ และ การควบคุมคอนทัวร์ ในสภาพแวดล้อม เพื่อไฮไลต์บางแง่มุมของสินค้า การคืนสินค้าที่เกิดขึ้นกับการซื้อขายผ่านทางช่องทางออนไลน์เกิดขึ้น เนื่องจากสินค้าดูแตกต่างไปจากความเป็นจริง รูปถ่ายสินค้าแบบในสตูดิโอจึงช่วยให้คุณสามารถถ่ายรูปสินค้าดูสมจริงที่สุดได้ คุณจะเห็นได้ว่าเนื่องจากความแวววาวของขวดแก้ว พื้นหลังสีเดียวสีเข้มทำให้สินค้ามีรายละเอียดที่ชัดเจน ทำให้ดูมีสไตล์ และ สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยปกติไฟที่จะนำมาใช้สำหรับสินค้าเหล่านี้ จะมีในสตูดิโอถ่ายรูป เช่น Lightboxes ต่างๆ ที่สามารถตั้งค่าแสงได้ สำหรับผู้ค้าปลีกที่ต้องการขายสินค้าที่จำนวนมาก การถ่ายรูปภาพสินค้าในลักษณะนี้ สามารถเร่งกระบวนการถ่ายรูปได้ การปรับแสงเพียงครั้งเดียว สามารถใช้แสงนั้นเพื่อถ่ายรูปสินค้าอื่นๆ ต่อไปได้เลย ซึ่งส่งผลให้เกิดคุณภาพของงานที่คุณวางใจได้ คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ในสตูดิโอได้ ทั้งยังสามารถระบุข้อมูลที่คุณต้องการในการแก้ไขภาพหลังถ่ายแล้วได้ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถทำให้รายละเอียดต่างๆ คมชัด และ เรียบร้อยขึ้นได้
รูปถ่ายสินค้าประเภท ถ่ายด้วยพื้นหลังสีขาว
พื้นหลังสีขาว ถือได้ว่าเป็น Layout อันดับต้นๆ ที่หลายๆ คนใช้ในการถ่ายรูปสินค้า การใช้พื้นหลังขาวเป็นวิธีการที่ง่าย และ ชัดเจนที่สุด ในการนำเสนอสินค้า มีการตั้งค่าที่เรียบง่าย ทั้งนี้ เพื่อแยกสินค้าออกจากจุดสนใจต่างๆ โดยสิ้นเชิง ให้สินค้าเป็นส่วนที่โดดเด่นที่สุดในรูป ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของ รูปถ่ายสินค้าประเภท ถ่ายด้วยพื้นหลังสีขาว คือ คุณจะสามารถสร้างความน่าพิศวงให้สินค้า โดยทำให้มันดูเหมือนลอยอยู่ ไม่มีสภาพแวดล้อมใดๆ หรือ รายละเอียดอื่น ๆ ที่ต้องจัดการ ทุกสายตาจะถูกดึงดูดมาที่สินค้า และรายละเอียดของสินค้านั้น ดังที่ปรากฏในภาพ คุณอาจต้องใช้ Photoshop หรือ โปรแกรมในทำนองเดียวกัน เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์นี้ ซึ่งทำได้โดยการแก้ไขรูปสินค้าในขั้นตอนหลังการถ่าย เพื่อลบสีของพื้นฉาก หรือ สภาพแวดล้อมภายนอกต่างๆ นอกเหนือจากตัวสินค้า หากไม่มีโปรแกรมในลักษณะนี้ ก็อาจจะถ่ายรูปสินค้านอกบ้านเพื่อให้ได้แสงจ้า หรือ ใช้ Lightbox ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ แน่นอนว่า รูปถ่ายสินค้าประเภท ถ่ายด้วยพื้นหลังสีขาว เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการนำเสนอสินค้า ลองดูใน Amazon นะครับ จะเห็นได้ว่าการนำเสนอสินค้าเกือบ ถูกกระทำในลักษณะนี้ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ จากข้อมูลของเว็บไซต์ Removal.ai ก็จะเห็นได้ว่า เกือบร้อยละ 76 ของสินค้าทั้งหมดใน Amazon ใช้รูปถ่ายพื้นหลังสีขาว รูปถ่ายสินค้าในลักษณะนี้ ยังรวมถึงการสร้างแบบจำลองด้วยนะครับ หากคุณต้องการนำเสนอ เสื้อผ้า หรือ อุปกรณ์ที่โดยทั่วไปจำเป็นต้องสวมใส่ และต้องการแสดงรูปร่าง คุณอาจจะต้องมีหุ่น หรือ มีบุคคลที่สวมใส่สินค้าได้ จากนั้นก็ทำการแก้ไขรูปภาพเพิ่มเติมในขั้นตอนหลังการถ่าย ทางเลือกหนึ่งที่ใช้กันทั่วไป คือ การแขวนสินค้า โดยที่สินค้า (เช่น เสื้อ หรือ กางเกง) จะถูกแขวนไว้แล้วค่อยถ่ายรูป
รูปถ่ายสินค้าแบบจัดกลุ่ม
รูปภาพกลุ่มสินค้า ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบสินค้าได้ โดยปกติแล้ว แนวคิด คือ การสร้างภาพนิ่งบาง ที่มีสินค้าหลายรายการ ประกอบกับสภาพแวดล้อมที่น่าไม่โดดเดน่เกินไป ซึ่งจะช่วยให้เห็นรูปภาพทั้งหมดโดยรวม รูปถ่ายสินค้าประเภท นี้ มักใช้กับเครื่องสำอาง รองเท้า และ สินค้าเพื่อความงามอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบเฉดสี และ พื้นผิว ฯลฯ ซึ่งหมายความว่า ผู้ซื้อสามารถเห็นลักษณะของตัวสินค้าทั้งหมด หรือ เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย กับสินค้าอื่นในหมวดหมู่เดียวกันได้ ข้อมูลจาก เว็บไซต์ Seattlewebdesign.com ระบุว่า ร้อยละ 75 ของผู้ซื้อ ใช้รูปถ่ายสินค้าในการเลือกซื้อสินค้า ดังนั้น การให้โอกาสผู้ซื้อได้เปรียบเทียบสินค้าอย่างชัดเจนจะมีประโยชน์มากในการขายของคุณ รูปถ่ายสินค้าประเภท นี้มีประโยชน์สำหรับเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ทั่วไป ซึ่งอาจจะไม่มีฟังก์ชั่นการจัดแสดงสินค้าจำนวนมากในคราวเดียว รูปถ่ายสินค้าแบบจัดกลุ่ม จะช่วยทำให้ผู้ซื้อมีแนวคิดที่กว้างขึ้นว่าร้านค้าออนไลน์นี้ขายอะไร
รูปถ่ายสินค้าแบบไลฟ์สไตล์
การถ่ายรูปไลฟ์สไตล์ทำงานได้ดีด้วยการถ่ายภาพนิ่งที่มีบุคคลเป็นแบบร่วมกับสินค้า รูปถ่ายสินค้าประเภท นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงรายละเอียดสินค้าตามที่จะถูกใช้ในชีวิตประจำวัน หากคุณกำลังจะถ่ายรูปอุปกรณ์ตั้งแคมป์ คุณอาจจะลองถ่ายกับเต็นท์ในสถานที่ตั้งแคมป์ หรือ ถ่ายรูปแก้วกาแฟขณะที่คนกำลังดื่มกาแฟจากแก้วนั้น รูปถ่ายสินค้าประเภทนี้มีประโยชน์ในลักษณะที่ว่า หากคุณถ่ายรูปที่ดูน่าดึงดูดใจ และ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ผู้ซื้อจะรู้สึกว่าอยากจะนำสินค้าในนั้นกลับบ้านมาด้วย ทั้งนี้ มีรูปแบบย่อยพื้นฐาน สำหรับการรูปถ่ายสินค้าแบบไลฟ์สไตล์ ได้แก่ “การถ่ายรูปบนโต๊ะ” เช่น สิ่งของที่วางบนโต๊ะ อยู่ถัดจากสิ่งที่สามารถพบได้ปกติในบ้าน เช่น แผ่นรองจาน อุปกรณ์ห้องน้ำ ฯลฯ “การถ่ายรูป Flatlay” โดยพื้นฐานแล้ว เป็นแนวคิดเดียวกันกับการถ่ายรูปบนโต๊ะ แต่เป็นการถ่ายจากด้านบนแทน มักใช้สำหรับหนังสือ และ จาน ชาม “การถ่ายรูปฮีโร่” เช่น นางแบบที่กำลังวิ่งในระยะทางไกล หรือ ที่กำลังปีนเขา คุณสามารถนำเสนอรูปการใช้งานสินค้าในลักษณะสุดขั้ว และ แสดงสินค้าในรูปแบบการใช้งานที่สื่ออารมณ์ต่างๆ ได้ อุปกรณ์กีฬา และ อุปกรณ์สำหรับกลางแจ้ง จึงมักใช้รูปถ่ายสินค้าแบบไลฟ์สไตล์ รวมถึงสินค้าอื่นๆ เช่น โทรศัพท์ นาฬิกา เป็นต้น “การถ่ายรูปนางแบบ” ซึ่งก็เป็นการถ่ายรูปแบบพื้นฐาน ซึ่งใช้นางแบบสวมใส่สินค้า นำเสนอในท่าทางที่เป็นธรรมชาติ รูปภาพทั้งหมดนี้ จะดูดีบนหน้า Landing Page ของเว็บไซต์ร้านค้าของคุณ หรือแม้กระทั่งบนโซเชียลมีเดีย เพราะให้บรรยากาศกับสินค้า สะท้อนการใช้งานที่แท้จริง
รูปถ่ายสินค้าแบบระยะใกล้
รูปถ่ายสินค้ารูปแบบเฉพาะนี้ อาจจะเจอได้กับสินค้าที่แสดงรายละเอียด และ พื้นผิวที่เฉพาะเจาะจง มักใช้เพื่อให้เกิดความชัดเจน และ โฟกัสมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะไม่สามารถสื่อความหมายได้เพียงพอ หากคุณกำลังขายสินค้าที่ทำจากวัสดุที่จำเพาะเจาะจง เช่น กระเป๋า พรม รองเท้า คุณอาจะอยากนำเสนอรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ผลิตสินค้านั้น เช่น ขนสัตว์ หรือ หนัง เพื่อแสดงให้ผู้ซื้อเห็นถึงฝีมือการผลิต และคุณภาพวัสดุ อย่างใกล้ชิด ยกตัวอย่างเช่น BMW ใช้รูปถ่ายสินค้าแบบระยะใกล้ เพื่อให้รายละเอียดของฝากระโปรงรถของรถยนต์ คุณจะเห็นความเงางาม และ พื้นผิวของวัสดุในรถได้ชัดเจนมาก รวมทั้งให้ความรู้สึกอื่นๆ อันจะเกิดจากการจัดองค์ประกอบรูปภาพด้วย ด้วยรูปถ่ายสินค้าประเภท นี้คุณสามารถให้มุมที่มีรายละเอียดมากขึ้นกับสินค้า ตลอดจนการแสดงแง่มุมที่ผู้ซื้ออาจพลาดไป หากไปเลือกดูสินค้าจริงที่ร้านด้วยตนเอง ยิ่งถ้าคุณมีรูปภาพที่หลากหลาย ผู้ซื้อก็จะยิ่งไว้วางใจคุณ และ มั่นใจในแบรนด์ของคุณมากขึ้น ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อในที่สุด
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม