การถ่ายรูปสินค้า — คู่มือฉบับย่อสำหรับ “การถ่ายรูปสินค้า” 📷

บทความ “คู่มือฉบับย่อสำหรับ การถ่ายรูปสินค้า” โดย JRS Photography

ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซ แคตตาล็อก หรือ ป้ายโฆษณา Demand ของรูปถ่ายสินค้ามีเพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วนของการตลาด ในปัจจุบันนี้ การถ่ายรูปสินค้าเข้ามามีบทบามสำคัญในตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นไปในทางที่ดี และ ยังคงพิชิตพื้นที่ใหม่ ๆ ต่อไป ผมเดาว่า คุณเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการหลาย ๆ คน ที่ต้องการทำความเข้าใจว่าการถ่ายรูปสินค้า คือ อะไร และ มีข้อกำหนดใด ๆ หรือไม่ สำหรับตัวคุณเอง (ในฐานะช่างภาพ) วันนี้ คุณมาถูกที่แล้วครับ ในบทความนี้ JRS Photography จะนำเสนอคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และ คำแนะนำที่เป็นประโยชน์บางประการ

การถ่ายรูปสินค้า คือ อะไร?

การถ่ายรูปสินค้า-02คำถามนี้สามารถขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น และ เป็นรูปธรรมได้ แน่นอนครับ ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา การถ่ายรูปดิจิทัลได้พัฒนารูปแบบต่าง ๆ ที่มีรูปแบบแตกต่าง ตั้งแต่ภาพพาโนรามาแนวนอน ไปจนถึง การถ่ายรูปสินค้า ซึ่งการถ่ายรูปสินค้าเอง ก็ได้รับคำนิยามของตัวมันเอง ซึ่งเป็นสาขาย่อยของการถ่ายภาพที่มีเป้าหมายชัดเจน เป้าหมายหลัก ของรูปถ่ายสินค้า คือ การนำเสนอรูปลักษณ์ของสินค้าอย่างถูกต้อง แม่นยำ ซึ่งรูปถ่ายจำพวกนี้ จะถูกนำมาใช้ประกอบการขายในภายหลัง โดยใช้ช่องทางการตลาดต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ หรือ โฆษณาออนไลน์ รูปถ่ายสินค้าจำเป็นต้องนำเสนอลักษณะของสินค้า ในรูปแบบที่ลูกค้าจะได้รับนะครับ

การถ่ายรูปสินค้าแบบไลฟ์สไตล์ สามารถบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าได้ โดยปกติแล้ว สินค้าจะถูกนำเสนอในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ ในขณะที่เป้าหมายหลักของช่างภาพ คือ การดึงดูดความสนใจของผู้ชมภาพ และ สร้างอารมณ์เชิงบวกรอบตัวสินค้า เอาเข้าจริง ๆ รูปถ่ายสินค้าที่เหมาะสมไม่ควรทำให้สินค้าดูดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นะครับ รูปภาพสินค้าที่ดูดีควรจะมีการนำเสนอคุณสมบัติของสินค้าอย่างแท้จริง ตามหลักการแล้ว รูปถ่ายสินค้า (ที่สะท้อนลักษณะที่แท้จริงขิงสินค้า) จะดึงดูด และ กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ทั้งนี้ รูปถ่ายสินค้าที่ดีอาจรวมถึง บรรจุภัณฑ์ การติดฉลาก และ ข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดที่คุณต้องการ ซึ่งมักจะมีจุดมุ่งหมายคือการกระตุ้นการซื้อโดยไม่ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด

รูปถ่ายสินค้า จะถูกนำไปใช้อย่างไร?

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสาขาการถ่ายรูป การถ่ายรูปสินค้ามีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการขาย และ การตลาดในภาคอีคอมเมิร์ซ พนักงานขาย และ นักการตลาด มักจะระบุว่า รูปถ่ายสินค้า จะถูกนำไปใช้ในการนำเสนอสินค้าอย่างแม่นยำ และ ครบถ้วน โดยไม่มีพื้นหลังที่ทำให้ผู้ซื้อเสียสมาธิ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ (อาทิ Amazon) กำหนดให้รูปภาพสินค้าต้องมีพื้นหลังเป็นสีขาว และ กำหนดอัตราส่วนสินค้าต่อขนาดเฟรมอย่างชัดเจน ชิ้นส่วนอะไหล่ และ รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของอุปกรณ์จะต้องมีรูปถ่ายที่คมชัด บนพื้นหลังสีขาวเพื่อให้ได้คอนทราสต์ที่ดี แบรนด์ใหญ่ ๆ ที่นำเสนอสินค้าของตนบนป้ายโฆษณา ยังใช้ประโยชน์จากความมหัศจรรย์ของพื้นหลังสีขาว และ การจัดแสงที่เท่าเทียมกัน ซึ่งรูปถ่ายสินค้าเหล่านี้ มีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลในสื่อการตลาด แผ่นพับ โปสเตอร์ โบรชัวร์ จะเป็นตัวอย่างหลัก ๆ ของการใช้รูปถ่ายสินค้า

จำเป็นไหมที่จะต้องใช้พื้นหลังสีขาวเท่านั้น?

ไม่ครับ พื้นหลังสีขาวไม่ได้เป็นข้อกำหนดสำหรับการถ่ายรูปสินค้าทั้งหมด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ (ที่จะสื่อไปยังลูกค้า) เช่น คุณจะเลือกนำเสนอรายละเอียดทั้งหมดหรือไม่ หรือ คุณจะถ่ายองค์ประกอบทั้งหมดในฉากด้วยหรือไม่ คำถามเหล่านี้ จะช่วยคุณจัดรูปแบบรูปถ่ายสินค้าได้ ตัวอย่างเช่น รูปถ่ายสินค้าพื้นหลังโปร่งใส มีประโยชน์ในโบรชัวร์ รูปถ่ายสินค้าพื้นหลังสีขาว เน้นสินค้าเท่านั้น รูปถ่ายสินค้าพื้นหลังสี เน้นคอนทราสต์

ถ่ายรูปสินค้ายังไงให้สวย?

ในกรณีของการถ่ายรูปสินค้า ปัจจัยที่จะกำหนดว่ารูปถ่ายสินค้าจะสวยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ แสง และ ฉาก รูปถ่ายสินค้าสำหรับอีคอมเมิร์ซ มักจะต้องใช้พื้นหลังสีขาว และ ไม่จำเป็นต้องมีความละเอียดสูง (เนื่องจากความละเอียดสูงสื่อสะท้อนข้อบกพร่องของสินค้าที่ผู้ขายอาจต้องการหลีกเลี่ยง … ซึ่ง ใช่ครับ คือเรื่องจริง) พื้นหลังที่เบลอมักจะไม่ถูกนำมาใช้สำหรับการถ่ายรูปสินค้า เนื่องจากมักเป็นคุณลักษณะทางศิลปะของรูปถ่าย ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสมในการนำเสนอรูปลักษณ์ของสินค้า หรือไลฟ์สไตล์สินค้า (แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่สามารถนำมาใช้ได้นะครับ) นอกจากนี้ เมื่อทราบข้อกำหนดคร่าว ๆ ข้างต้นแล้ว ก็จะต่อด้วยการวางแผนดำเนินการถ่ายรูป สิ่งแรกที่จะนึกถึง คือ กล้อง และ ฉาก

การเลือกกล้องถ่ายรูปสำหรับ การถ่ายรูปสินค้า

การตัดสินใจเลือกกล้อง DSLR แบบคลาสสิก หรือ กล้อง Mirrorless ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ยังคงมีความสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องขนาด และ คุณภาพของเซนเซอร์ ซึ่งจะส่งผลต่อความละเอียด และ ระดับของรายละเอียดที่คุณสามารถนำเสนอในรูปถ่ายได้ ขนาดเซนเซอร์ หมายถึง ขนาดเซนเซอร์กล้องทั่วไป อาทิ ฟูลเฟรม หรือ APS-C กล้องฟูลเฟรมมีความกว้างของขนาดเซนเซอร์ คือ 35 มม. ในขณะที่ APS-C มีขนาดเซนเซอร์ที่เล็กกว่า ด้วยความกว้าง 24 มม. มีบางคนบอกว่า กล้องสำหรับใช้ถ่ายรูปสินค้าที่เหมาะสม คือ APS-C ซึ่งจะช่วยให้รูปมีความชัดลึกมากขึ้น ในส่วนของกล้องฟูลเฟรม จะใช้ได้ในบางโอกาสเมื่อต้องการความละเอียดในระดับที่สูงขึ้นไป เช่น การถ่ายรูปสินค้า ที่มีคุณสมบัติขนาดเล็กจำนวนมาก หรือ พื้นผิวที่ซับซ้อน ซึ่งอาจจะเป็นการถ่ายรูปเครื่องประดับ และ สินค้าขนาดเล็ก

การเลือกเลนส์สำหรับ การถ่ายรูปสินค้า

การเลือกเลนส์สำหรับการถ่ายรูปสินค้า ถือเป็นคำถามถัดไปเกี่ยวกับอุปกรณ์ สำหรับสินค้าทั่วไป เลนส์ 50 มม. (mm.) ก็เพียงพอ แต่สำหรับสินค้าขนาดเล็ก เลนส์มาโครจะมีประโยชน์มาก มักจะมีอัตราส่วนกำลังขยายที่ดีที่สุด คือ 1:1 เป็นอย่างน้อย

การจัดแสงในการถ่ายรูปสินค้า

การทำงานกับแสงในการถ่ายรูปสินค้า มักจะเกี่ยวข้องกับความต้องการในการนำเสนอสินค้าอย่างตรงไปตรงมา รูปร่าง พื้นผิว และ สี จำเป็นต้องได้รับการนำเสนอเช่นเดียวกับในความเป็นจริง เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่แม่นยำก่อนตัดสินใจซื้อ ข้อกำหนดสำหรับการจัดแสงในการถ่ายรูปสินค้า มีประเด็นสำคัญอยู่ 3 ประการ ได้แก่ ลักษณะพื้นผิว สมดุลแสงขาว (อุณหภูมิสี) และการใช้แสงต่อเนื่อง/แฟลช

ในส่วนของ พื้นผิว ควรตั้งค่าแสงแบบไม่สม่ำเสมอ กล่าวคือ สินค้าบางชนิด เช่น เสื้อผ้า หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะต้องให้ช่างภาพถ่ายรายละเอียดมาก และ ดูแลให้รูปถ่ายเหมือนสินค้าจริง ทั้งหมดนี้ ใช้เทคนิคทางศิลปะน้อยที่สุด การกระจายแสงที่ไม่สม่ำเสมอซึ่งมีความเข้มต่างกันจะเป็นวิธีการที่สมบูรณ์แบบ ในการนำเสนอพื้นผิว หรือ สวิตช์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซ่อนอยู่ในสินค้า ในส่วนของสมดุลแสงขาว และ อุณหภูมิสีของแหล่งกำเนิดแสง ในการเรนเดอร์สีโดยไม่บิดเบือนเฉดสีตามธรรมชาติ คุณจะต้องประสานสมดุลแสงขาวในกล้องกับอุณหภูมิสีของแสงของหลอดไฟที่คุณใช้ ทางที่ดีควรรักษาอุณหภูมิสีรอบแสงแดดธรรมชาติไว้ ที่ 5500 K ในส่วนของการใช้แสงต่อเนื่อง และ แฟลช คุณภาพของรูปถ่ายที่ผลิตออกมานั้น อาจไม่มีความแตกต่าง ระหว่างภาพที่ใช้ไฟต่อเนื่อง หรือ แฟลช อย่างไรก็ตาม คำถามทางเทคนิคอาจทำให้คุณเลือกแสงต่อเนื่องแทนการใช้แฟลช ในการใช้แสงต่อเนื่อง คุณจะไม่ถูกจำกัดความเร็วชัตเตอร์ และ จะได้รับประโยชน์จากไลฟ์วิวในกล้อง

การตกแต่งรูปถ่ายสินค้า

การตกแต่งรูปถ่ายรูปถ่ายสินค้า จะประกอบด้วย 4 ขั้นตอนสำคัญ คือ การตัดสินค้าออกจากพื้นหลัง การเลือกพื้นหลังที่เป็นเนื้อเดียวกันตามต้องการ (ซึ่งมักจะเป็นสีขาว) การปรับแต่งพื้นผิวของรูปถ่าย และ การปรับความอิ่มตัว และ คอนทราสต์ เป็นต้น สิ่งสำคัญ คือ คุณจะต้องไม่วาดเอฟเฟกต์ในภาพมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับสี หรือ พื้นผิว ของสินค้า

JRS Photography รับถ่ายรูปสินค้า ขอมอบบริการที่ช่วยให้ให้แบรนด์ของคุณมีความสม่ำเสมอ ผ่านรูปถ่ายสินค้าได้ JRS Photography เป็นผู้เชี่ยวชาญในการถ่ายรูปสินค้า คุณไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาเรื่องความสม่ำเสมอในรูปถ่ายสินค้าของแบรนด์ ช่างภาพที่มีความสามารถ และ มีประสบการณ์ของเรา เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ก่อน โดยรับฟังความต้องการ และ เป้าหมายของลูกค้าอย่างรอบคอบ JRS Photography จัดรูปภาพทั้งหมดให้ตรงโทนเฉพาะ สร้างรูปภาพที่สม่ำเสมอ ซึ่งดึงดูดการเข้าชมของผู้ซื้อ สร้างความไว้วางใจในหมู่ผู้ซื้อ สร้างความทรงจำ และ สร้างการมองเห็น ที่สำคัญกว่านั้น เราสามารถจัดส่งรูปถ่ายสินค้าทั้งหมดภายใน 1–2 วัน


การถ่ายรูปสินค้า-01ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
รับถ่ายรูปสินค้า 📷

LINE ID: @538sdzng
โทร 086-966-6909
Email: jrs@jaratsri.com

 


Posted

in

by

Tags: